ชื่อต้นไม้ : จำปี
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Michelia alba DC.
ชื่อเรียกอื่น : จุมปี, จุ๋มปี๋ (ภาคเหนือ)
ลักษณะ : เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 10-20 เมตร ไม่ผลัดใบ ลำต้นสีน้ำตาลแตกเป็นร่องถี่ กิ่งเปราะ หักง่าย เรือนยอดรูปกรวยทึบ ใบเดี่ยวเรียงสลับ ใบมีรูปรี ปลายแหลม ขอบใบเรียบ ยาว 20 เซนติเมตร กว้าง 8 เซนติเมตร ออกดอกเดี่ยวที่ซอกใบ กลีบดอกสีขาว แคบเรียบ มี 8-12 กรีบ ยาว 4-6 เซนติเมตร มีกลิ่นหอม
ไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงกลาง กิ่งมีขนสีเทา ใบเดี่ยวเรียงเวียน หูใบยาวถึง 2.5 เซนติเมตร มีขน ก้านใบยาว 1.5-2 เซนติเมตร ใบรูปใบหอกแกมรูปไข่ถึงแกมขอบขนาน ขนาดกว้าง 5.5-16 เซนติเมตร ยาว 15.35 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม ยาว 3 เซนติเมตร โคนใบสอบเรียว ก้านดอกย่อย ยาว 0-2 เซนติเมตร ดอกมีจำนวนมาก สีขาว มีกลิ่นหอม กลีบรวม มี 12 กลีบ (อาจพบมี 8 กลีบ) รูปขอบขนาน ปลายแหลมขนาดใกล้เคียงกัน ยาว 3-3.5 เซนติเมตร เกสรเพศผู้ มีจำนวนมาก 20-32 อัน เกสรเพศเมีย ก้านชูเกสร ยาว 0.5 เซนติเมตร รังไข่มี 10-13 อัน (อาจมี 4 อัน) แยกกัน ผิวเกลี้ยงหรือมีขนสีน้ำตาล ไม่ติดผล
การปลูกและดูแลรักษา : หากดินปลูกร่วนซุยจะเติบโตได้ดี และใส่ปุ๋ยคอกให้ด้วย หากรดน้ำทุกวันจะทำให้ต้นโตไว
การนำไปใช้จัดสวน : ไม้ยืนต้น ออกดอกให้กลิ่นหอม ปลูกในบ้านได้
ราคากลาง ต้นจำปีไทย
ขนาด 2 นิ้ว สูงไม่ต่ำกว่า 1.5 เมตร ราคาต้นละ 800 บาท
ขนาด 3 นิ้ว สูงไม่ต่ำกว่า 2.5 เมตร ราคาต้นละ 1,500 บาท
ขนาด 4 นิ้ว สูงไม่ต่ำกว่า 3 เมตร ราคาต้นละ 3,500 บาท
ขนาด 5 นิ้ว สูงไม่ต่ำกว่า 3 เมตร ราคาต้นละ 5,000 บาท
(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)
ชื่อต้นไม้ : ต้นแก้วมุกดา
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Fagraea ceilanica
ชื่อเรียกอื่น : –
ลักษณะ : แก้วมุกดาเป็นไม้พุ่มรอเลื้อย ถ้าปลูกกลางแจ้งเป็นได้ทั้งไม้พุ่มเตี้ยๆ ประดับสวนหรือเป็นไม้พุ่มสูง 2-3เมตร บังแดด ให้ร่มเงาก็ได้ ทรงพุ่มจะออกทางแผ่กว้างออกด้านข้าง ให้ร่มเงาดี โตช้า (อ้างอิง : พรรณพฤกษา ณ ภูวนาลี, เดือนฉาย คอมันตร์) บริเวณที่ปลูก กลิ่นจะหอมแรงขึ้นในช่วงอากาศเย็นหรือหลังจากฝนตกใหม่ๆ
ประโยชน์ : เป็นพันธุ์ไม้ที่ใบไม่ค่อยร่วง ทรงต้นสวยงามไม่มีความจำเป็นต้องตัดแต่ง ปลูกเป็นไม้ประดับใบได้ดี เพราะว่ามีใบสวยงามมาก
การนำไปใช้จัดสวน : ให้ร่มเงา กลิ่นหอม ไม้พุ่ม ชอบแดด ต้องหมั่นรดน้ำ
ราคากลางต้นแก้วมุกดา
หน้า 2 นิ้ว สูงไม่ต่ำกว่า 2 เมตร ราคาต้นละ 1,500 บาท
(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้น)
ชื่อต้นไม้ : ต้นกระทิง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Calophyllum inophyllum L.
ชื่อเรียกอื่น : ทิง เนาวกาน สารภีทะเล สารภีแนน Alexandrian laurel
ลักษณะ : ไม้ต้นขนาดกลางถึงใหญ่ สูง ๑๕ – ๓๐ เมตร ไม่ผลัดใบ ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปรีหรือแกมรูปไข่กลับ ยาว ๘ – ๑๕ เซนติเมตร ปลายใบกลมหรือเว้าตื้น โคนใบรูปลิ่มกว้างหรือกลม แผ่นใบค่อนข้างหนา เกลี้ยง เป็นมันวาวทั้งสองด้าน เส้นแขนงใบจำนวนมาก ดอกสีขาว ออกเป็นกระจุกแยกแขนงสั้นๆ ตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง เกสรเพศผู้ สีเหลือง จำนวนมาก ผลสดมีเมล็ดเดียว ทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร ผลสุกสีเหลือง เมล็ดขนาดใหญ่
การกระจายพันธุ์ พบตั้งแต่ประเทศแอฟริกา อินเดีย ศรีลังกา พม่า จีนตอนใต้ ไต้หวัน ญี่ปุ่น กัมพูชา เวียดนาม ภูมิภาคมาเลเซีย หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิค จนถึงออสเตรเลีย ในประเทศไทยพบขึ้นตามชายหาด ที่โล่งชายป่าใกล้ชายฝั่งทะเล ระดับความสูงไม่เกิน ๒๐๐ เมตร ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคใต้
ประโยชน์ : เนื้อไม้ใช้ในการก่อสร้าง ทำเครื่องเรือน และกระดูกงูเรือ น้ำมันใช้ในอุตสาหกรรมสบู่ ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม และใช้ผสมทำเป็นน้ำมันไบโอดีเซลจากเมล็ด
แหล่งข้อมูล : หนังสือองค์ความรู้เรื่องป่าพืช ที่ใช้ประโยชน์ทางภาคเหนือของไทย
การนำไปใช้จัดสวน : ปลูกเพื่อให้ร่มเงา ในพื้นที่กลางแจ้ง เพราะด้วยความสูงของต้นที่ใหญ่ ไม่ควรปลูกติดหรือใกล้บ้านมากนัก
ราคากลางต้นกระทิง
ขนาด 2 นิ้ว สูงไม่ต่ำกว่า 2.5 เมตร ราคาต้นละ 1,200 บาท
ขนาด 3 นิ้ว สูงไม่ต่ำกว่า 2.5 เมตร ราคาต้นละ 2,000 บาท
ขนาด 4 นิ้ว สูงไม่ต่ำกว่า 3 เมตร ราคาต้นละ 2,900 บาท
ขนาด 5 นิ้ว สูงไม่ต่ำกว่า 3 เมตร ราคาต้นละ 4,250 บาท
(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้น)