Category Archives for "ไม้เลื้อย"

รายการไม้เลื้อย เป็นพืชที่ลำต้นมีเนื้อไม้หรือไม่มีเนื้อไม้ อายุปีเดียวหรือหลายปี ลำต้นเลื้อยไปตามดินหรือพัน สิ่งที่อยู่ใกล้เคียง โดยอาจมีอวัยวะพิเศษช่วยในการเกี่ยวยึด รวบรวมข้อมูลไว้นานาชนิดในหมวดนี้ ซื้อ-ขาย ไม้ประดับ ติดต่อร้านขายต้นไม้ได้โดยตรง

เดฟหัวใจล้านดวง

เดฟหัวใจล้านดวง

เดฟหัวใจล้านดวง

ชื่อต้นไม้: เดปหัวใจล้านดวง
ชื่อวิทยาศาสตร์: Dischidia ruscifolia Decne. ex Becc.
ชื่อเรียกอื่น: –

ลักษณะโดยทั่วไป: ต้นหัวใจล้านดวง เป็นไม้เลื้อยขนาดเล็กประเภทเดียวกันกับต้นเดป มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ ได้มีการนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยเป็นเวลานานแล้ว นิยมปลูกเป็นไม้แขวน ไม้ดัด เพื่อความสวยงาม
ลำต้น:มีลักษณะเป็นเถาเลื้อยสีเขียวหรือสีน้ำตาลอมแดง ขนาดเล็ก สามารถทอดยาวไปได้ไกลประมาณ 1-2 เมตร มีข้อตามเถา
ใบ:มีลักษณะเป็นรูปหัวใจ แผ่นใบสีเขียวสด หนา อวบน้ำ โคนใบมน ปลายใบแหลมเป็นติ่ง เส้นใบนูนขึ้นมาเห็นได้ชัด มีขนาดความกว้างของใบประมาณ 1.5-2 ซม. ยาวประมาณ 2-3 ซม. ออกเป็นใบเดี่ยว เรียงซ้อนสลับตรงข้ามกัน
ดอก:ออกเป็นช่อบริเวณซอกใบ ในแต่ละช่อจะมีดอกย่อยขนาดเล็กไม่มากนัก ลักษณะดอกจะคล้ายกับรูปคนโท มีกลีบดอกสีขาวจำนวน 5 กลีบ โคนกลีบดอกเชื่อมติดกัน ส่วนปลายแยกออกจากกัน ให้ดอกได้ตลอดทั้งปี มักไม่ค่อยมีการติดผล

การปลูก และการดูแลรักษา: การขยายพันธุ์ทำได้ด้วยการปักชำกิ่ง นำไปปักชำในกาบมะพร้าวสับที่สะอาดโดยไม่ต้องใช้ดิน รดน้ำให้ความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ รากจะงอกออกมาหลังจากปักชำไปได้ประมาณ 4 สัปดาห์ แล้วค่อยย้ายไปปลูกได้ การปลูกใช้วัสดุปลูกพวกกาบมะพร้าวสับ ดินร่วน และรากเฟินชายผ้าสีดา เพื่อให้สามารถเก็บความชื้นและระบายน้ำได้ดี ใช้กระถางปลูกตามขนาดที่ต้องการ และลวดเหล็กสำหรับแขวนกระถาง หลังจากใส่วัสดุปลูกในกระถางแล้วก็รดน้ำให้พอชุ่ม นำกิ่งพันธุ์ลงไปปลูก
หัวใจล้านดวง เป็นพืชที่ชอบแสงแดดแบบรำไร ต้องน้ำและความชื้นสูง เป็นต้นไม้ที่โตช้าจึงไม่ต้องตัดแต่งกิ่งกันบ่อยๆ มีความทนทานและเหมาะกับสภาพอากาศของเมืองไทย

การใช้งานและอื่นๆ:นิยมปลูกเป็นไม้ประดับในกระถางแขวนเพื่อความสวยงาม หรือดัดเป็นรูปร่างต่างๆ ตามความต้องการ

การนำไปใช้จัดสวน: ไม้เลื้อยขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ

ราคากลาง ต้นเดฟหัวใจล้านดวง

ลูกมะพร้าว 3 นิ้ว ความยาวไม่ต่ำกว่า 25 ซม. ราคา  20  บาท

(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)

เดฟด่าง

เดฟด่าง

เดฟด่าง

ชื่อต้นไม้: เดฟใบด่าง
ชื่อวิทยาศาสตร์: Dischidia ‘White Diamond’
ชื่อเรียกอื่น: –

ลักษณะโดยทั่วไป : เดป เป็นพืช ไม้เลื้อยขนาดเล็กมีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ ได้มีการนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยเป็นเวลานานแล้ว นิยมปลูกเป็นไม้แขวน ไม้ดัด เพื่อความสวยงาม
ต้นเดปนั้นเลื้อยได้ไกลถึง 1-2 เมตร ลำต้นบอบบาง ใบรูปถึงรูปไข่แกมรูปทรงกลม กว้าง 1.2 เซนติเมตร ยาว 2 – 2.5 เซนติเมตรปลายใบเป็นโค้งมน โคนใบสอบ แผ่นใบหนา แผ่นใบที่หนานั้น อาจหนาได้ถึง 3 มิลลิเมตร ด้านบนสีเขียวเข้ม มีเส้นใบออกจากโคนใบสีขาว ใต้ใบสีเขียวอ่อน เส้นใบเห็นชัดเฉพาะเส้นกลางใบ  ก้านใบยาว 5-6 ช่อดอกเป็นช่อกระจุกออกที่ซอกใบ มี 3 – 8 ดอก ดอกสีขาว กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วยปลายแยกเป็น 5 กลีบ ขนาด 3 – 4 มิลลิเมตร ออกดอกในฤดูหนาว
โคนกลีบเชื่อมติดต่อกัน  ปลายแยกเป็น 5 แฉก ด้านในสีแดงคล้ำ ไม่ติดผล 

การปลูก และการดูแลรักษา: เหมาะปลูกเป็นไม้กระถางแขวนหรือเลื้อยเกาะตามกิ่งก้านของไม้ใหญ่ เติบโตได้ดีในที่มีแสงแดดรำไร ความชื้นสัมพัทธ์สูง  นิยมใช้กาบมะพร้าวสับหรือรากเฟินชายผ้าสีดาเป็นวัสดุปลูก เพราะเก็บความชื้นและระบายน้ำดี  ขยายพันธุ์โดยการปักชำกิ่ง อัตราการเจริญเติบโตเร็ว

การนำไปใช้จัดสวน: ไม้เลื้อย ขนาดกลาง  ไม่ผลัดใบ

ราคากลาง ต้นเดฟใบด่าง

ลูกมะพร้าว 3 นิ้ว ความยาวไม่ต่ำกว่า 25 ซม. ราคา  25  บาท

(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)

เดฟเขียว

ต้นเดปเขียว

ต้นเดปเขียว

ชื่อต้นไม้: เดฟเขียว
ชื่อวิทยาศาตร์ : Dischidia nummularia Variegata
ชื่อเรียกอื่น: –

ลักษณะโดยทั่วไป : เดป เป็นพืชอิงอาศัยขนาดเล็ก ลำต้นเลื้อยพัน มีรากตามข้อใช้ยึดเกาะทุกส่วนของลำต้น มีน้ำยางสีขาวมีถิ่นกำเนิดใน เขตร้อนของจีน อินเดีย และ อินโดจีน
ใบ : มี ใบรูปไข่แกมรี หนาอวบน้ำ ปลายแหลม โคนมน ผิวเป็นมัน ก้านใบสั้น ใบมีขนาดเล็ก
ดอก : ออกดอกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบและปลายกิ่ง มีดอกย่อย 5-10 ดอก มีขนาดเล็ก
ผล : เป็นฝักคู่ มีเมล็ดด้านใน

การปลูก และการดูแลรักษา: สถานที่ควรเป็นสถานที่ชื้น และอากาศถ่ายเท มีแสงแดดรำไร ไม่ควรปลูกในที่มีลมแรง ไม่มีแสง หรือมีแสงจ้าจนเกินไป สามารถปลูกใส่กระถางหรือกระเช้าแขวนโดยเลือกใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาเป็นหลัก อาจจะใช้กาบมะพร้าวสับร่วมกับใบไม้ผุ หรืออาจใช้โฟมหักเป็นชิ้นเล็กๆใส่ลงไปด้วยก็จะทำให้น้ำหนักเบามากยิ่งขึ้นควรปลูกใส่ภาชนะที่มีรูพรุน ไม่ควรใช้ดินอุ้มน้ำ ขยายพันธ์โดยการเพาะเมล็ด หรือ ปักชำ

การใช้งานและอื่นๆ :ใช้แขวนประดับตกแต่งบ้าน อาคารสำนักงาน หรือมุมพักผ่อนส่วนตัว บางครั้งมุมสงบส่วนตัวที่มีการจัดวางต้นไม้ไว้อยู่แล้ว หากนำไม้แขวนไปเติมเต็มในส่วนที่ว่างด้านบน อาจจะให้ผลทางด้านความต่อเนื่องและเพิ่มความร่มรื่นได้มากยิ่งขึ้นหรืออาจจะใช้ไม้แขวนในการแบ่งพื้นที่ใช้สอย (partition) เช่นใช้บังสายตาจากระหว่างโต๊ะทำงานข้างๆ หรือเพิ่มความเป็นส่วนตัวในมุมส่วนตัวเป็นต้นสถานที่แขวน

การนำไปใช้จัดสวน: ไม้เลื้อยขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ

ราคากลาง ต้นเดฟเขียว

ลูกมะพร้าว 3 นิ้ว ความยาวไม่น้อยกว่า 25 ซม.  ราคา  20  บาท

(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)

มาลัยทอง (ไม้เลื้อย)

มาลัยทอง

มาลัยทอง

ชื่อต้นไม้ : มาลัยทอง (ไม้เลื้อย)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Byrsonima crassifolia (L.) Kunth

ชื่อเรียกอื่น : มาลัยนงนุช /Golden Wreath

ลักษณะทั่วไป : มาลัยทอง ไม้เลื้อยให้ดอกเป็นช่อเหลืองสดใส ห้อยย้อยดูแล้วเหมือนม่านมาลัยสีทอง เหลืองอร่าม สะดุดตา ใครเห็นใครก็ต้องหยุดมองในความเหลืองอร่ามของดอก

ลำต้น: เลื้อยได้ไกล 2 – 5 เมตร มีมือเกาะ กิ่งก้านเป็นเหลี่ยม

ลักษณะใบ  :  ใบประกอบ 3 ใบย่อยออกตรงข้าม รูปใบหอกแกมรูปรี กว้าง 6-7 เซนติเมตร ยาว 14-16 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม โคนใบมน ขอบใบจักซี่ฟัน แผ่นใบสีเขียวเข้ม ผิวใบเกลี้ยง ก้านใบยาว 8 เซนติเมตร โคนก้านอ้วนพอง

ดอก: ออกเป็นช่อตามปลายยอด ช่อยาว 15-45 เซนติเมตร กลีบประดับสีเหลือง แตกช่อย่อย ดอกย่อยเป็นหลอด กลีบเลี้ยง 5 กลีบรูปขอบขนาน ปลายแหลม กลีบดอกสีเหลือง โคนกลีบสีเหลืองเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกออกเป็น 5 กลีบซ้อนทับกัน ด้านบน 3 กลีบ ด้านล่าง 2 กลีบ มีขนปกคลุม เมื่อนำมาปลูกเลี้ยงจะออกดอกเป็นระยะตลอดปี แต่ในธรรมชาติออกเดือนสิงหาคมถึงกันยายน

การปลูกและดูแลรักษา  : มาลัยทองสามารถขยายพันธุ์ง่ายเหมือนการเลี้ยงดูโดยใช้การปักชำเถาหรือลำต้น ตัดกิ่งกึ่งแก่กึ่งอ่อน เป็นท่อนๆ ตัดใบออกบางส่วนแล้วนำไปปักในถุงชำ ที่ใช้แกลบดำผสมขุยมะพร้า รดน้ำให้ชุ่ม  ปลูกในดินร่วน ระบายน้ำดีอินทรียวัตถุสูง ประมาณ 2 สัปดาห์ รากก็จะเริ่มงอกให้เห็น รอจนรากแข็งแรงดี

การนำไปใช้จัดสวน : ปลูกเป็นซุ้มไม้เลื้อยที่มีอายุหลายปี

ราคากลาง ต้นมาลัยทอง (ไม้เลื้อย)

กระถาง 8 นิ้ว ทรงพุ่มยาวไม่ต่ำกว่า 25 ซม.  ราคา  85  บาท

(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)