ต้นเทียนทอง

ต้นเทียนทอง-ราคา

ต้นเทียนทอง-ราคา

ชื่อต้นไม้ : เทียนทอง

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Duranta erecta L.  

ชื่อเรียกอื่น : เทียนทอง, พวงม่วง, เทียนพญาอินทร์

ลักษณะทั่วไป : ลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นแตกกิ่งก้านจำนวนมาก ทรงพุ่มแน่นทึบ เปลือกสีน้ำตาลอ่อน  สูงประมาณ 3 เมตร ใบและดอกเด่นสะดุดตา ตอบสนองต่อแสงดีมาก นิยมปลูกเป็นไม้สวนกลางแจ้งสามารถตัดแต่งเป็นรูปทรงที่ต้องการได้

ใบ : ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปรีถึงรูปไข่ กว้าง 1-1.5 เซนติเมตร ยาว 1.5-2 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบหยัก แผ่นใบสีเขียวอ่อนอมเหลืองถึงสีเหลืองทอง

ดอก : ออกดอกเป็นช่อ ยอดกิ่ง ดอกมีลักษณะเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 กลีบ สีม่วง  โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปกรวย ปลายแยกเป็น 5 แฉก ดอกบานเต็มที่กว้างประมาณ 1.5 เซนติเมตร

ผล  : ผลสด รูปกลม ขนาด 0.5-0.8 เซนติเมตร สีเหลือง มีเมล็ด 1 เมล็ด

การปลูกและดูแลรักษา  : ต้นเทียนทองเป็นไม้ที่ชอบแสงจึงควรปลูกในที่โล่ง ไม่มีร่มไม้ใหญ่ โดยนิยมปลูกจากต้นกล้าจากการเพาะชำอายุต้นกล้าประมาณ 2-3 เดือน ก่อนปลูกต้องเตรียมแปลงหรือบริเวณปลูกด้วยการพรวนดิน และกำจัดวัชพืชเสียก่อน ระยะปลูกประมาณ 20-40 ซม. ขึ้นกับขนาดและอายุต้นกล้า การดูแลรักษาต้นเทียนทองเป็นไม้ที่ชอบแสงและดินชื้นไม่มากจึงรดน้ำเพียง 2 วัน/ครั้งพอชุ่ม แต่หากในช่วงฤดูแล้งที่อากาศร้อนจัด ควรรดเป็นประจำทุกวันโดยเฉพาะต้นเทียนทองที่มีอายุน้อย ส่วนการใส่ปุ๋ยควรใส่ปุ๋ยคอกเพียงอย่างเดียวหรือใช้เศษใบไม้ ขี้เถ้าแกลบโรยโคนต้นเท่านั้น ไม่ควรใช้ปุ๋ยเคมีโดยเฉพาะปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง เพราะจะทำให้ใบมีสีเขียวสดมากใบมีสีเหลืองทองน้อยลง รวมถึงการได้รับแสงมากจะทำให้ใบเทียนทองมีสีเขียวมากขึ้น

การนำไปจัดสวน : ไม้พุ่มขนาดเล็ก

ราคากลาง ต้นเทียนทอง

ถุง 3 นิ้ว  ราคา  6  บาท

กระถาง 16 นิ้ว  ทรงพุ่มไม่ต่ำกว่า 50 ซม.  ราคา 160  บาท

(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)

เทียนหยด

ต้นเทียนหยด

ต้นเทียนหยด

ชื่อต้นไม้ : เทียนหยด

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Verbenaceae

ชื่อเรียกอื่น : ฟองสมุทร, พวงม่วง, เทียนไข(กรุงเทพฯ), สาวบ่อลด(เชียงใหม่), เครือออน(แพร่), เอี่ยฉึ่ง(จีน)

ลักษณะทั่วไป : มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่บริเวณทวีปอเมริกาเขตร้อน เป็นพรรณไม้พุ่มเตี้ย สูง 1 – 2 เมตร แตกกิ่งก้านหนาแน่นยอดกิ่งลู่ลงใบเป็นใบเดี่ยวออกตรงกันข้ามและจะออกหนาแน่นเป็นกระจุกรอบกิ่งก้านในช่วงปลายยอดใบเป็นรูปรีแกมรูปไข่ปลายใบแหลมโคนใบสอบ ขอบใบจักเป็นฟันเลื่อย ใบเป็นสีเขียวสด เวลาใบดกจะเป็นพุ่มน่าชมมากดอกออกเป็นช่อที่ซอกใบและปลายกิ่งแต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยจำนวนมากช่อดอกจะห้อยลงเป็นระย้า ลักษณะดอก โคนเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 กลีบ ดอกแต่ละกลีบเป็นอิสระกัน ปลายกลีบโค้งมน มีเว้าเล็กน้อยบริเวณกลางกลีบ โคนกลีบสอบแคบ เวลามีดอกดกๆและบานพร้อมๆกันทั้งต้น ช่อดอกจะห้อยปลายลงเป็นระย้าดูงดงามมากดอกจะออกทั้งปีมีพันธุ์สีม่วงและสีขาวผลทรงกลม ขนาดเล็กปลายแหลมอยู่รวมกันเป็นช่อห้อยลงมา

การปลูกและดูแลรักษา  : ปลูกขึ้นได้ในดินทั่วไป ไม่ชอบน้ำท่วมขัง ชอบแดดจัดเหมาะจะปลูกลงดินกลางแจ้ง หรือลงกระถาง ตั้งวางในที่มีแดดส่องถึงทั้งวัน นิยมปลูกเป็นไม้ขอบแปลงหรือแปลงใหญ่ ขยายพันธุ์โดย การเพาะเมล็ด ตอนหรืปักชำกิ่ง หลังการปลูก บำรุงด้วยปุ๋ยมูลสัตว์ ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก 10 วันครั้งรดน้ำพอชุ่มเช้าเย็น ถ้าปลูกลงกระถางควรให้ปุ๋ยสูตร 16-16-16 อาทิตย์ละครั้ง สลับกับปุ๋ยมูลสัตว์ 10 วันครั้ง ตัดแต่งกิ่ง พรวนดินสม่ำเสมอจะทำให้ต้นเทียนหยด เจริญเติบโตเร็ว

การนำไปใช้จัดสวน : ไม้พุ่ม รูปทรงไม่แน่นอน ลำต้นสูงได้ 1-3 เมตร กิ่งมีลักษณะลู่ลง ปลูกทำแนวเขตรั้วได้

ราคากลาง ต้นเทียนหยด

ถุง 3 นิ้ว  ราคา  8  บาท

(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)

ทองประกายแสด

ทองประกายแสด ราคา

ทองประกายแสด ราคา

ชื่อต้นไม้ : ทองประกายแสด

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Byrsonima crassifolia (L.) Kunth

ชื่อเรียกอื่น : ช่อทองคำ,พวงทองดำ,Golden Spoon,Nance,Savanna Serrette,Wild Craboo,Wild Cherry

ลักษณะทั่วไป : มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่บริเวณทวีปอเมริกาใต้ไล่ขึ้นไปถึงประเทศอเมริกาส่วนกลาง เป็นไม้พื้นเมืองที่ปลูกกันทั่วไปของบราซิล, เม็กซิโก, ทรินิแด, บาร์บาโดส, เปรู กิ่งอ่อน ๆ มีขนสีน้ำตาลปกคลุมก้านใบยาว 1-2  เซนติเมตรอยู่เยอะ หลังใบเป็นมัน ท้องใบมีขนเล็กน้อย ส่วนใบเป็นลักษณะใบเดี่ยวเป็นรูปไข่ ขนาด 4-8 x 7-12 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนรูปลิ่ม ขอบเรียบ แผ่นใบหนา โดยดอกออกเป็นช่อที่ซอกใบและปลายยอด  ดอกย่อย 10-30 ดอก กลีบเลี้ยงสีเขียว กลีบดอกสีเหลือง 5 กลีบโคนสอบแคบ ปลายย่น เส้นผ่านศูนย์กลางดอก 2-3 เซนติเมตร ออกดอกเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ มีลักษณะเป็นไม้พุ่มกึ่งเลื้อยขนาดเล็ก อายุหลายปี

การปลูกและดูแลรักษา  : ขึ้นในดินที่มีแต่หินปนทราย แม้ดินจะไม่อุดมสมบูรณ์แต่ก็สามารถงอกงามได้ในดินที่ค่อนข้างขาดธาตุอาหาร ที่สำคัญที่สุดคือดินต้องระบายน้ำดี เป็นไม้ทนแล้งได้ดีจึงชอบแดดเต็มวัน แต่แล้งขาดน้ำมากไปก็อาจตายได้เช่นเดียวกัน ถ้าปลูกลงกระถางรถน้ำพอผ่าน 1-2 วัน/ครั้ง ก็อยู่ได้  การขยายพันธุ์ที่นิยมกันมากก็คือวิธีการเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง และปักชำกิ่ง

การนำไปใช้จัดสวน : ไม้พุ่มทรงสูง ไม้ดอกไม้ประดับภายในสวน

ราคากลาง ต้นทองประกายแสด

ถุง 3 นิ้ว  ราคา  6  บาท

(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)

ทองดอกบวบ

ทองดอกบวบ ราคา

ทองดอกบวบ ราคา

ชื่อต้นไม้ : ทองดอกบวบ

ชื่อสามัญ  : The Caricature plant.

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Graptophyllum pictum

ชื่อเรียกอื่น : ใบเงิน,ใบทอง,ใบนาค

ลักษณะทั่วไป : ต้นทองดอกบวบในเมืองไทยมีประมาณ 8 สายพันธุ์ เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ลำต้นสูงประมาณ 2-4 เมตร แตกกิ่งสาขาออกจากโคนต้น และเจริญพุ่งตรงไปข้างบน ลำต้นกลมเล็ก สีขาวปนเทา ใบเป็นใบเดี่ยวออกเป็นคู่ๆ สลับกันตามลำต้น ใบเป็นรูปรีปลายใบแหลมขอบใบเรียบเป็นคลื่นเล็กน้อย พื้นใบสีเขียว กลางใบมีหลายสีเช่น สีเหลือง แดง ชมพู สลับกันในแผ่นใบ ออกดอกเป็นช่อ ตามส่วนยอดของลำต้น ลักษณะดอกเป็นหลอดยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร โคนเป็นหลอดจะมีกลีบดอก 3 กลีบ ดอกมีสีแดงเข้ม นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ หรือไม้ตัดดอกสำหรับบูชาพระ

ใบเงิน แผ่นใบเป็นสีเขียว ที่กลางใบจะมีด่างสีขาวหรือสีเหลืองอ่อนจาง ๆ แทรกอยู่

ใบทอง แผ่นใบเป็นสีเขียวหรือสีเหลืองอ่อน ๆ มีสีเหลืองเข้มแทรกตามขอบใบ

ใบนาก แผ่นใบเป็นสีเขียวแกมน้ำตาลหรือสีเขียวอมม่วง และมีรอยด่างเป็นสีขาวและสีม่วงที่ไม่เป็นระเบียบ ส่วนขอบใบเป็นสีชมพูเข้ม

การปลูกและดูแลรักษา  : ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดและวิธีการปักชำ เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยและระบายน้ำได้ดี โดยจัดเป็นพรรณไม้กลางแจ้งที่ชอบอยู่ในที่ร่มรำไร มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ต้องการแสงแดดเป็นบางเวลา

การนำไปใช้จัดสวน : จัดเป็นไม้พุ่มขนาดกลาง มีความสูงของต้นประมาณ 1-2 เมตร เปลือกลำต้นเรียบ  คนไทยนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป เนื่องจากสีสันของใบมีความโดดเด่นและสวยงาม

ราคากลาง ทองดอกบวบ

ถุง 3 นิ้ว  ราคา  6  บาท

(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)

ต้นตาเบเหลือง

ต้นตาเบเหลือง

ต้นตาเบเหลือง

ชื่อต้นไม้  :  ตาเบเหลือง

ชื่อวิทยาศาสตร์  : Tabebuia argentea Britt.

ชื่อเรียกอื่น  : เหลืองปรีดียาธร

ลักษณะ  : ไม้ต้นขนาดเล็ก สูงไม่เกิน 8 เมตร ผลัดใบ ลำต้น เรือนยอดรูปไข่ เปลือกต้นสีน้ำตาล แตกเป็นร่อง กิ่งก้านแตกเป็นชั้น ใบ ใบประกอบรูปนิ้วมือ ใบย่อย 5-7 ใบ รูปรีแกม ขอบ ขนาน ปลายใบมนหรือแหลม โคนใบมนหรือสอบ ใบเหลือบสีเงินทั้งสองด้าน ดอกสีเหลือง ออกเป็นช่อกระจุกแน่นที่ปลายกิ่ง 7-15 ดอก โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลาย แยก 5 กลีบ ผลเป็นฝัก สีเทา มีเส้นสีดำ ขยายพันธุ์ ด้วยเมล็ด

การปลูกและดูแลรักษา  :  ปลูกได้ในสภาพดินทั่วไป ถ้าเป็นดินร่วนระบายน้ำได้ดีจะดีมาก เจริญเติบโตปานกลาง

การนำไปใช้จัดสวน :  ปลูกประดับสวน  เป็นกลุ่มหรือต้นเดียว  ในสนามหรือมุมอาคาร ดอกและใบสวยงาม เหมาะกับสวนธรรมชาติ ต้นเล็กควรค้ำยันตลอดเวลา

ราคากลาง ต้นตาเบเหลือง
ขนาด 2 นิ้ว  สูงไม่ต่ำกว่า 2.5 เมตร  ราคาต้นละ 650 บาท
ขนาด 3 นิ้ว  สูงไม่ต่ำกว่า 2.5 เมตร  ราคาต้นละ 1,050 บาท
ขนาด 4 นิ้ว  สูงไม่ต่ำกว่า 3 เมตร  ราคาต้นละ 1,650 บาท
ขนาด 5 นิ้ว  สูงไม่ต่ำกว่า 3 เมตร  ราคาต้นละ 2,500 บาท
(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)

ต้นตีนเป็ดน้ำ

ต้นตีนเป็ดน้ำ

ต้นตีนเป็ดน้ำ

ชื่อต้นไม้  :  ตีนเป็ดน้ำ

ชื่อวิทยาศาสตร์  : Cerbera odollam

ชื่อเรียกอื่น  : ตีนเป็ดน้ำ, ตีนเป็ดทะเล, ตุม, มะตะกอ, สั่งลา

ลักษณะ  : มีถิ่นกำเนิดในอินเดียจนถึงทางตอนใต้ของจีน มีเขตการกระจายพันธุ์ตั้งแต่ประเทศศรีลังกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภูมิภาคมาเลเซีย หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกและนิวแคลิโดเนีย ส่วนในประเทศไทยนั้นจะพบได้เฉพาะทางภาคใต้ โดยจัดเป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดเล็ก ทรงร่ม เรือนยอดเป็นทรงกลมทึบ มีความสูงของต้นประมาณ 5-15 เมตร ลำต้นแตกกิ่งต่ำ เปลือกลำต้นเรียบเป็นสีน้ำตาลอ่อนหรือสีเทา มีช่องระบายอากาศเป็นร่องยาว มีน้ำยางสีขาวข้น ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดแก่ (เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด) มักพบขึ้นตามบริเวณริมน้ำ ตามป่าชายเลน ป่าบึงน้ำจืด และป่าชายหา

การปลูกและดูแลรักษา  :  ปลูกได้ดีในดินทั่วไป ชอบแสงแดดเต็มวัน เจริญเติบโตได้เร็ว ไม่ต้องการการดูแลมาก

การนำไปใช้จัดสวน :  ไม้ยืนต้น ไม้ต้นขนาดเล็ก  ไม่ผลัดใบ

ราคากลาง ต้นตีนเป็ดน้ำ
ขนาด 2 นิ้ว  สูงไม่ต่ำกว่า 2.5 เมตร  ราคาต้นละ 750 บาท
ขนาด 3 นิ้ว  สูงไม่ต่ำกว่า 2.5 เมตร  ราคาต้นละ 1,000 บาท
ขนาด 4 นิ้ว  สูงไม่ต่ำกว่า 3 เมตร  ราคาต้นละ 1,350 บาท
ขนาด 5 นิ้ว  สูงไม่ต่ำกว่า 3 เมตร  ราคาต้นละ 2,400 บาท
(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)

ต้นชงโค

ต้นชงโค

ต้นชงโค

ชื่อต้นไม้  :  ชงโค

ชื่อวิทยาศาสตร์  : Bauhinia purpurea

ชื่อเรียกอื่น  : ดอกตีนวัว, เสี้ยวหวาน กะเฮอ สะเปซี (แม่ฮ่องสอน), เสี้ยวดอกแดง (ภาคเหนือ), ชงโค เสี้ยวเลื่อย (ภาคใต้)

ลักษณะ  : เป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ 5-15 เมตร กิ่งอ่อนมีขนปกคลุม ลักษณะของใบชงโคเป็นใบเดี่ยวคล้ายรูปหัวใจ ปลายของใบเว้าลึกมาก ปลายใบทั้งสองด้านกลมมนดูคล้ายใบแฝดติดกัน (คล้าย ๆ กับใบกาหลง) ส่วนลักษณะของผลจะเป็นฝักแบนคล้ายฝักถั่ว กว้างประมาณ 1.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร เมล็ดในฝักค่อนข้างแบน ฝักแก่จะแตกออกเป็นสองซีกตามความยาวของฝัก โดยเป็นต้นไม้ที่ผลัดใบในช่วงฤดูหนาว (ปลายปี) แล้วจะผลิใบในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม และเป็นต้นไม้ที่ชอบแสงแดด การเพาะปลูกจึงนิยมปลูกในที่มีแสงแดดตลอดทั้งวัน
การปลูกและดูแลรักษา  :  ปลูกได้ในสภาพดินทั่วไป ระบายน้ำได้ดี

การนำไปใช้จัดสวน :  ไม้ยืนต้น มีดอกกลิ่นหอมอ่อนๆ ให้ร่มเงา ไม้ผลัดใบ จัดเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง ปลูกในบ้าน

ราคากลาง ต้นชงโค

ขนาด 2 นิ้ว  สูงไม่ต่ำกว่า 2.5 เมตร  ราคาต้นละ 950 บาท
ขนาด 3 นิ้ว  สูงไม่ต่ำกว่า 2.5 เมตร  ราคาต้นละ 1,600 บาท
ขนาด 4 นิ้ว  สูงไม่ต่ำกว่า 3 เมตร  ราคาต้นละ 2,700 บาท
ขนาด 5 นิ้ว  สูงไม่ต่ำกว่า 3 เมตร  ราคาต้นละ 3,950 บาท
(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)

ต้นจำปา

ต้นจำปา

ต้นจำปา

ชื่อต้นไม้  :  จำปา

ชื่อวิทยาศาสตร์  : Magnolia champaca (L.) Baill. ex Pierre

ชื่อเรียกอื่น  : –

ลักษณะ  : จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ลำต้นตรง มีความสูงประมาณ 15-30 เมตร ลักษณะเป็นทรงพุ่มโปร่งเป็นรูปกรวยคว่ำ ค่อนข้างโปร่ง แตกกิ่งจำนวนมากที่ยอด ที่เปลือกมีสีเทาอมขาวและมีกลิ่นฉุน โดยต้นจำปาจะขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด การทาบกิ่ง และการตอนกิ่ง  ต้นเตี้ยกว่าจำปี เรือนต้นเป็นพุ่มเช่นกัน ดอกมีกลีบใหญ่กว่าจำปี สีเหลืองเข้ม กลีบแข็ง และกลิ่นหอมแรงกว่าจำปี เวลาบานกลีบใหญ่โค้งงอเข้าภายในดอก ไม่บานกระจายแบบดอกจำปี

การปลูกและดูแลรักษา  :  ชอบดินที่มีการระบายน้ำได้ดี น้ำท่วมรากจะตายทันที ชอบมีแมลงรบกวนมากตั้งแต่ต้นมีขนาดเล็กก็จะถูกหนอนเจาะกินยอด

การนำไปใช้จัดสวน :  ไม้ยืนต้น ออกดอกให้กลิ่นหอม ปลูกในบ้านได้ ไม่ชอบแสงแดดที่ส่องมาโดยตรงแรง ๆ

ราคากลาง ต้นจำปา

ขนาด 2 นิ้ว  สูงไม่ต่ำกว่า 1.5 เมตร  ราคาต้นละ 800 บาท
ขนาด 3 นิ้ว  สูงไม่ต่ำกว่า 2.5 เมตร  ราคาต้นละ 1,500 บาท
ขนาด 4 นิ้ว  สูงไม่ต่ำกว่า 3 เมตร  ราคาต้นละ 3,500 บาท
ขนาด 5 นิ้ว  สูงไม่ต่ำกว่า 3 เมตร  ราคาต้นละ 5,000 บาท
(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)

ต้นจำปี

ต้นจำปี

ต้นจำปี

ชื่อต้นไม้  :  จำปี

ชื่อวิทยาศาสตร์  : Michelia alba DC.

ชื่อเรียกอื่น  : จุมปี, จุ๋มปี๋ (ภาคเหนือ)

ลักษณะ  : เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 10-20 เมตร ไม่ผลัดใบ ลำต้นสีน้ำตาลแตกเป็นร่องถี่ กิ่งเปราะ หักง่าย เรือนยอดรูปกรวยทึบ ใบเดี่ยวเรียงสลับ ใบมีรูปรี ปลายแหลม ขอบใบเรียบ ยาว 20 เซนติเมตร กว้าง 8 เซนติเมตร ออกดอกเดี่ยวที่ซอกใบ กลีบดอกสีขาว แคบเรียบ มี 8-12 กรีบ ยาว 4-6 เซนติเมตร มีกลิ่นหอม

ไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงกลาง กิ่งมีขนสีเทา ใบเดี่ยวเรียงเวียน หูใบยาวถึง 2.5 เซนติเมตร มีขน ก้านใบยาว 1.5-2 เซนติเมตร ใบรูปใบหอกแกมรูปไข่ถึงแกมขอบขนาน ขนาดกว้าง 5.5-16 เซนติเมตร ยาว 15.35 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม ยาว 3 เซนติเมตร โคนใบสอบเรียว ก้านดอกย่อย ยาว 0-2 เซนติเมตร ดอกมีจำนวนมาก สีขาว มีกลิ่นหอม กลีบรวม มี 12 กลีบ (อาจพบมี 8 กลีบ) รูปขอบขนาน ปลายแหลมขนาดใกล้เคียงกัน ยาว 3-3.5 เซนติเมตร เกสรเพศผู้ มีจำนวนมาก 20-32 อัน เกสรเพศเมีย ก้านชูเกสร ยาว 0.5 เซนติเมตร รังไข่มี 10-13 อัน (อาจมี 4 อัน) แยกกัน ผิวเกลี้ยงหรือมีขนสีน้ำตาล ไม่ติดผล

การปลูกและดูแลรักษา  :  หากดินปลูกร่วนซุยจะเติบโตได้ดี และใส่ปุ๋ยคอกให้ด้วย หากรดน้ำทุกวันจะทำให้ต้นโตไว

การนำไปใช้จัดสวน :  ไม้ยืนต้น ออกดอกให้กลิ่นหอม ปลูกในบ้านได้

ราคากลาง ต้นจำปีไทย

ขนาด 2 นิ้ว  สูงไม่ต่ำกว่า 1.5 เมตร  ราคาต้นละ 800 บาท
ขนาด 3 นิ้ว  สูงไม่ต่ำกว่า 2.5 เมตร  ราคาต้นละ 1,500 บาท
ขนาด 4 นิ้ว  สูงไม่ต่ำกว่า 3 เมตร  ราคาต้นละ 3,500 บาท
ขนาด 5 นิ้ว  สูงไม่ต่ำกว่า 3 เมตร  ราคาต้นละ 5,000 บาท
(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)

ฮวงจุ้ยร้านค้าบริษัท เลือกทำเลดี มีชัยกว่าครึ่ง

นอกเหนือจากฮวงจุ้ยบ้านที่เราเคยคุยกันแล้วนั้น สำหรับร้านค้าไม่ก็บริษัท ก็จำเป็นต้องดูฮวงจุ้ยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นฮวงจุ้ยร้านค้า ฮวงจุ้ยบริษัท ความจริงแล้วฮวงจุ้ยของคนก็ยังมี พูดง่ายๆว่าทุกอย่างมีฮวงจุ้ยของมัน การดูฮวงจุ้ยนั้น ทำให้เรามีหลัก เพราะหากเราหลักดีแล้วอะไรๆ ก็มักจะดีตามไปด้วย แน่นอนว่าการใช้ฮวงจุ้ยเป็นหลักในการเลือกทำเลดี ทำให้เราำกำชัยชนะไปแล้วครึ่งหนึ่งเสมอ

Continue reading