ลิ้นมังกร
ชื่อต้นไม้ : ลิ้นมังกร
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Sansevieria spp.
ชื่อเรียกอื่น : ว่านหางเสือ, ว่านงาช้าง (หอกสุระกาฬ), ครีบปลาวาฬ, ลิ้นนาคราช
ลักษณะทั่วไป : มีถิ่นกำเนิดจากแถบทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ
ต้น : เป็นหัวหรือเหง้าอยู่ในดิน ใบเกิดจากหัวโผล่ออกมาพ้นดินประกอบกันเป็นกอ
ใบ : เป็นแท่งกลมยาวหรือใบแบนกว้าง ปลายแหลม แข็ง หนาเป็นมัน ขอบใบเรียบ โค้งงอเล็กน้อยหรือเป็นเกลียว ใบมีความกว้างประมาณ 4-7 เซนติเมตร และสูงประมาณ 30-60 เซนติเมตร อาจมากกว่าหรือน้อยกว่าตามแต่สายพันธุ์นั้น ๆ สีสันของใบลิ้นมังกรจะมีสีเขียวซีดจนถึงสีเขียวเข้ม บางสายพันธุ์ใบมีสีเขียวเข้มขอบใบมีสีเหลืองทอง หรือใบมีสีเหลืองและมีสีขาวเป็นเส้นตามแนวใบ สีขาวประ สีเขียวอมเหลือง เขียวอมด่าง สีฟ้า และลักษณะลวดลายบนใบที่มีความแตกต่างและสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ ละสายพันธุ์
ดอก : ลิ้นมังกรมักจะออกดอกในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ดอกมีสีขาวหรือสีเขียวอ่อนและมีกลิ่นหอม ดอกมี 5 กลีบขนาดเล็กประมาณ 1.5 เซนติเมตร เรียงเป็นแนวตามชั้นของก้านดอก สามารถจำแนกการออกดอกได้เป็น 3 ลักษณะ คือ
– spike-like raceme ลักษณะการออกดอกเรียงเป็นแนวตามชั้นของก้านดอก ขนานกับใบ
– panicle raceme ลักษณะการออกดอกเรียงเป็นแนวตามการแตกกิ่งที่แผ่ออกของก้านดอก
– capitate raceme ลักษณะการออกดอกยื่นสูงเป็นพุ่มเดี่ยวที่ปลายก้านดอก
การปลูกและดูแลรักษา :
การปลูก มี 2 วิธี
- การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน นิยมปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวนแต่คนโบราณนิยมปลูกเป็นแนวรั้วบ้าน ขนาดหลุมปลูก30 x 30 x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก: ดินร่วน: อัตรา 1 : 1 ผสมดินปลูก
- การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายในและภายนอกอาคาร ควรใช้กระถางทรงสูง ขนาด10-15 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอก หรือ ปุ๋ยหมัก: ดินร่วน อัตรา 1 : 1 ผสมดินปลูก และควรเปลี่ยนกระถางทุก 1-2 ปี เพราะเนื่องจากการขยายตัวของรากและหน่อแน่นเกินไป และเพื่อเปลี่ยนดินปลูกใหม่แทนดินปลูกเดิมที่เสื่อมสภาพไป
การนำไปใช้จัดสวน : เป็นไม้ประดับ
ราคากลาง ต้นลิ้นมังกร
กระถาง 8 นิ้ว ราคา 25 บาท
กระถาง 6 นิ้ว ราคา 35 บาท (แคระ)
(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)