Category Archives for "ไม้ประดับภายนอกอาคาร"

รายการไม้ประดับภายนอกอาคาร เป็นกลุ่มพืชที่ต้องการแสงมากตลอดทั้งวัน ส่วนมากปลูกประดับอยู่ภายนอกอาคารหรือตามสนามต่างๆ รวบรวมข้อมูลไว้นานาชนิดในหมวดนี้ ซื้อ-ขาย ไม้ประดับ ติดต่อร้านขายต้นไม้ได้โดยตรง

ลิ้นมังกร

ลิ้นมังกร

ลิ้นมังกร

ชื่อต้นไม้ : ลิ้นมังกร

ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Sansevieria spp.

ชื่อเรียกอื่น : ว่านหางเสือ, ว่านงาช้าง (หอกสุระกาฬ), ครีบปลาวาฬ, ลิ้นนาคราช

ลักษณะทั่วไป :    มีถิ่นกำเนิดจากแถบทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ

ต้น : เป็นหัวหรือเหง้าอยู่ในดิน ใบเกิดจากหัวโผล่ออกมาพ้นดินประกอบกันเป็นกอ

ใบ : เป็นแท่งกลมยาวหรือใบแบนกว้าง ปลายแหลม แข็ง หนาเป็นมัน ขอบใบเรียบ โค้งงอเล็กน้อยหรือเป็นเกลียว ใบมีความกว้างประมาณ  4-7 เซนติเมตร และสูงประมาณ  30-60 เซนติเมตร อาจมากกว่าหรือน้อยกว่าตามแต่สายพันธุ์นั้น ๆ สีสันของใบลิ้นมังกรจะมีสีเขียวซีดจนถึงสีเขียวเข้ม บางสายพันธุ์ใบมีสีเขียวเข้มขอบใบมีสีเหลืองทอง หรือใบมีสีเหลืองและมีสีขาวเป็นเส้นตามแนวใบ สีขาวประ สีเขียวอมเหลือง เขียวอมด่าง สีฟ้า และลักษณะลวดลายบนใบที่มีความแตกต่างและสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ ละสายพันธุ์

ดอก : ลิ้นมังกรมักจะออกดอกในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ดอกมีสีขาวหรือสีเขียวอ่อนและมีกลิ่นหอม ดอกมี 5 กลีบขนาดเล็กประมาณ  1.5 เซนติเมตร เรียงเป็นแนวตามชั้นของก้านดอก สามารถจำแนกการออกดอกได้เป็น  3 ลักษณะ คือ

– spike-like raceme ลักษณะการออกดอกเรียงเป็นแนวตามชั้นของก้านดอก ขนานกับใบ

– panicle raceme ลักษณะการออกดอกเรียงเป็นแนวตามการแตกกิ่งที่แผ่ออกของก้านดอก

– capitate raceme ลักษณะการออกดอกยื่นสูงเป็นพุ่มเดี่ยวที่ปลายก้านดอก

การปลูกและดูแลรักษา  :

การปลูก มี 2 วิธี

  1. การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน นิยมปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวนแต่คนโบราณนิยมปลูกเป็นแนวรั้วบ้าน ขนาดหลุมปลูก30 x 30 x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก: ดินร่วน: อัตรา 1 : 1 ผสมดินปลูก
  2. การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายในและภายนอกอาคาร ควรใช้กระถางทรงสูง ขนาด10-15 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอก หรือ ปุ๋ยหมัก: ดินร่วน อัตรา 1 : 1 ผสมดินปลูก และควรเปลี่ยนกระถางทุก 1-2 ปี เพราะเนื่องจากการขยายตัวของรากและหน่อแน่นเกินไป และเพื่อเปลี่ยนดินปลูกใหม่แทนดินปลูกเดิมที่เสื่อมสภาพไป

 

 การนำไปใช้จัดสวน : เป็นไม้ประดับ

ราคากลาง ต้นลิ้นมังกร

กระถาง 8 นิ้ว  ราคา  25  บาท

กระถาง 6 นิ้ว  ราคา  35  บาท  (แคระ)

(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)

ยี่โถ

ต้น-ยี่โถ

ต้น-ยี่โถ

ชื่อต้นไม้ : ยี่โถ

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Nerium oleander L.

ชื่อเรียกอื่น : ยี่โถฝรั่ง

ลักษณะทั่วไป :  ยี่โถมีถิ่นกำเนิดในประเทศเมดิเตอร์เรเนียน เคบเวอดี ญี่ปุ่น

ต้น : ไม้พุ่มขนาดกลาง ลำต้นตั้งตรง แตกกิ่งก้านจำนวนมากที่โคนต้น ทุกส่วนของต้นมียางใส กิ่งอ่อนสีเขียว เปลือกสีน้ำตาลเข้ม

ใบ : ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับรอบกิ่ง ใบรูปแถบหรือรีแกมรูปขอบขนาน  กว้าง 3-4 เซนติเมตร ยาว 15-17 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบสอบเรียว ขอบใบเรียบ แผ่นใบค่อนข้างหนา ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน เส้นกลางใบเด่นชัดทั้งสองด้าน

ดอก : สีชมพู ขาว แดง เหลือง ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกเชิงประกอบที่ปลายกิ่ง ช่อละ 20-50 ดอก   มีทั้งดอกลาและดอกซ้อน   พันธุ์ดอกลามีหลายสี  เช่น  สีชมพู ขาว แดง เหลือง   ส่วนพันธุ์ดอกซ้อนสีชมพูเข้ม มีกลิ่นหอมอ่อนๆ  ดอกมีขนาดใหญ่กว่าพันธุ์ดอกลา ช่อดอกบานเต็มที่กว้าง 8-12 เซนติเมตร

ฝัก/ผล : เป็นฝักคู่  เมื่อแก่จะแตกเห็นเมล็ดภายในผล

เมล็ด : แบน รูปรี มีขนละเอียดคลุม

การปลูกและดูแลรักษา  : ยี่โถนิยมปลูกด้วยการเพาะเมล็ด ตอนกิ่งและปักชำกิ่ง

การนำไปใช้จัดสวน : เป็นไม้พุ่มขนาดกลางและไม้ประดับเหมาะสำหรับปลูกประดับสวนเป็นกลุ่มหรือเป็นแถว

ราคากลาง ต้นยี่โถ (กอ)

ความสูงไม่ต่ำกว่า 2 เมตร  ราคา  75  บาท

(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)

ปาล์มฟอกเทล

ต้นปาล์มฟอกเทล

ต้นปาล์มฟอกเทล

ชื่อต้นไม้ : ปาล์มฟอกเทล

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Wodyetia bifurcate A.K. Irvine

ชื่อเรียกอื่น : ฟ็อกเทล (Foxtail palm), ปาล์มหางหมาป่า, ปาล์มหางกระรอก

ลักษณะทั่วไป : มีถิ่นกำเนิดจากตอนเหนือของออสเตรเลีย ควีนส์แลนด์ เป็นปาล์มต้นเดี่ยว ลำต้นป่องเล็กน้อย สูงได้ถึง 15 เมตร ลักษณะของใบเป็นใบแบบขนนก (Feather palm Leaf) ซึ่งมีลักษณะใบพวงกลมคล้ายกับหางกระรอกหรือหางหมาป่านั่นเอง ขนาดของใบกว้าง 2-5 เซนติเมตร ยาว 45-75 เซนติเมตร ฟ็อกเทลเป็นปาล์มที่มีลักษณะ “สมบูรณ์เพศ” คือ สามารถติดช่อและออกดอกได้โดยตัวของตัวเอง ดังนั้นปัจจุบันฟ๊อกเทลจึงราคาตกลงมากเพราะขยายพันธุ์ได้ง่าย เลี้ยงง่าย และโตง่าย เนื่องจากลักษณะใบของฟ็อกเทลเป็นใบแบบขนนก (Feather palm leaf) ซึ่งใบจะมีลักษณะเป็นเส้น ไม่ดูหนาและหนักเท่ากับปาล์มที่มีลักษณะเป็นใบพัด (Fan palm leaf) ดังนั้น ถ้าหากเราปลูกในสถานที่ที่ค่อนข้างกว้าง ลักษณะใบจะดูไม่เด่น ไม่ชัดเจน เทคนิควิธีการโชว์ใบของปาล์มแบบขนนกนั้น

การปลูกและดูแลรักษา  : สามารถทำได้ด้วยการเพาะเมล็ด และในช่อหนึ่งนั้นจะมีเมล็ดที่ติดเป็นจำนวนมาก  เป็นต้นไม้ที่ชอบแดดจัด

การนำไปใช้จัดสวน : เป็นปาล์มต้นเดี่ยวผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ปลูกเป็นกลุ่ม 2 ต้น หรือ 3 ต้น จะช่วยทำให้ใบดูมีความชัดเจนและสง่าขึ้น

ราคากลาง ต้นปาล์มฟอกเทล

ความสูงจากโคนถึงคอใบไม่น้อยกว่า 2 เมตร  ราคา  800  บาท

(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)

ต้นประยงค์

ต้นประยงค์

ต้นประยงค์

ชื่อต้นไม้ : ประยงค์

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aglaia odorata Lour.

ชื่อเรียกอื่น : ประยงค์บ้าน, ประยงค์ใบใหญ่, ขะยง, ขะยม, พะยงค์ ยม, หอมไกล

ลักษณะทั่วไป : มีถิ่นกำเนิดในแถบประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ประเทศไทย พม่า ลาว อินโดนีเชีย เป็นต้น รวมถึงประเทศจีนตอนใต้และอินเดีย ซึ่งมักพบตามป่าดิบชื้น ป่าเบญจพรรณ บ้านเรือน ริมแม่น้ำ         ลำคลองต่าง ๆ จัดเป็นไม้ดอกไม้ประดับที่นิยมปลูกตามบ้านเรือน และสถานที่สาธารณะต่างๆ เนื่องจากลำต้นค่อนข้างเตี้ย แตกกิ่งมากและใบดก ทำให้เป็นทรงพุ่มหนา นอกจากนั้นดอกประยงค์ยังมีสีเหลืองสวยงามและส่งกลิ่นหอมแรงเมื่อดอกบาน มีทรงพุ่มค่อนข้างเป็นวงกลม ลำต้นสูงประมาณ 3-6 เมตร และอาจพบสูงได้มากกว่านี้ ลำต้นมีกิ่งแตกออกที่ระดับต่ำประมาณ 1 เมตร ซึ่งเป็นส่วนของแกนลำต้น ส่วนที่เหลือเป็นกิ่งหลัก ผิวลำต้นไม่ค่อยเรียบมักเป็นลูกคลื่น เปลือกลำต้นมีสีเทา ส่วนเนื้อไม้ของต้น และกิ่งเป็นไม้เนื้ออ่อน เปราะหักง่ายไม่นิยมใช้สำหรับการก่อสร้างหรือการแปรูปต่าง ๆ แต่ใช้เป็นเชื้อเพลิงได้

 การปลูกและดูแลรักษา  : ประยงค์สามารถทำได้ทั้งการเพาะเมล็ด การตอน และการปักชำกิ่ง แต่ที่นิยมคือ การตอนและการปักชำกิ่ง เพราะช่วยให้ได้ต้นพันธุ์ไม่สูงต้นออกดอกได้หลังปลูก

การนำไปใช้จัดสวน : ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ลำต้นแตกกิ่งมาก และมีใบดกทำให้เป็นทรงพุ่มหนาทึบ ทรงพุ่มค่อนข้างเป็นวงกลม

ราคากลาง ต้นประยงค์

กระถาง 16 นิ้ว  สูงไม่ต่ำกว่า 80 ซม.  ราคา  450  บาท

(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)

ประทัดไต้หวัน

ต้นประทัดไต้หวัน

ต้นประทัดไต้หวัน

ชื่อต้นไม้ : ประทัดไต้หวัน

ชื่อวิทยาศาสตร์ Hamelia patens Jacq.

ชื่อเรียกอื่น : พวงประทัด/ประทัดฟิลิปปินส์/ประทัดทอง/ประทัดเล็ก/Coloradillo/Fire Bush/Scarlet Bush

ลักษณะทั่วไป : เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ลำต้นแตกกิ่งก้านเป็นพุ่มกลม กิ่งก้านมีสีน้ำตาลแดงเรื่อ

ใบ : มีลักษณะเป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามหรือรอบข้อประมาณ 3 ใบ ใบรูปรีถึงรูปไข่ กว้าง 5-7 เซนติเมตร ยาว 5-10 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบเป็นคลื่นเล็กน้อย ผิวใบด้านบนสีเขียวอม เหลือง เป็นมัน

ดอก : มีลักษณะเป็นดอกสีส้มแดง ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกตามซอกใบและปลายกิ่ง โคนกลีบดอกเชื่อมติดกัน เป็นหลอดแคบเล็ก ปลายแยก 4 แฉก หยักเป็นแฉกเล็ก ๆ

ผล : มีลักษณะเป็นผลสดแบบมีเนื้อ รูปไข่ กว้างประมาณ 6 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 8 มิลลิเมตร เมื่อแก่มีสีดำ มีเมล็ดจำนวนมาก

การปลูกและดูแลรักษา  : ขึ้นได้ในดินทั่วไป ระบายน้ำได้ดี ชอบแสงแดดจัดและไม่ทนน้ำท่วมขังมีอัตราการเจริญเติบโตที่เร็วและชอบความชื้นในระดับปานกลาง สามารถขยายพันธุ์ด้วยวิธีการปักชำและตอนกิ่ง

การนำไปใช้จัดสวน : เป็นไม้พุ่มสามารถตัดแต่งทรงพุ่มได้ดี จึงนิยมปลูกเป็นแนวรั้ว เกาะกลางถนน ริมทางเดิน บังกำแพง ริมสระว่ายน้ำ และริมทะเล

ราคากลาง ต้นประทัดไต้หวัน

ถุง 3 นิ้ว  ราคา  9  บาท

(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)

ไทรทอง

ต้นไทรทอง

ต้นไทรทอง

ชื่อต้นไม้ : ไทรทอง

ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Ficus altissima Blume

ชื่อเรียกอื่น : ไทรย้อยใบแหลมด่าง

ลักษณะทั่วไป : ไทรทองเป็นไม้ต้นขนาดใหญ่  สูง  2.5-3 เมตร  มีพูพอน  เปลือกต้นสีน้ำตาลอมเทาแตกกิ่งกระจายรอบต้น  พุ่มทรงกลม ค่อนข้างหนาทึบ  มีน้ำยางสีขาว  รากอากาศเหนียว  ใบ เดี่ยว  รูปไข่ กว้าง 10  ซม. ยาว 18 ซม. สีเขียวเข้ม  มีหูใบหุ้มยอด ใบอ่อนสีเขียวสดเป็นมัน  หูใบหุ้มยอดอ่อนไว้  ดอกช่อ  ไม่มีก้านดอก  โคนช่อดอกมีใบประดับขนาดเล็ก 3 ใบรองรับช่อดอก ผล สุกแล้วอ่อนนุ่ม สีเหลือง แต่ละผลมีเนื้อบางๆ และมีเมล็ด 1 เมล็ด

การปลูกและดูแลรักษา  :

การปลูกมี 2 วิธี

  1. การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวนโบราณนิยมปลูกไว้เพื่อประดับบริเวณสวนเพราะเป็นไม้ที่มีการแตก กิ่งก้าน สาขาที่กว้างใหญ่ ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 2 ผสมดินปลูก
  2. การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายในและภายนอกอาคาร ควรใช้กระถางทรงสูงขนาด12-18 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : แกลบผุ : ดินร่วนอัตรา 1:1:1 ผสมดินปลูกควรเปลี่ยนกระถาง1-2 ปี/ครั้งหรือแล้วแต่ความเหมาะสมของทรงพุ่มทั้งนี้ก็เพราะ   การเจริญเติบโตของทรงพุ่มโตขึ้นและเพื่อต้องการเปลี่ยนดินปลูกใหม่ทดแทนดินปลูกเดิมที่เสื่อมสภาพไป การปลูกทั้ง 2 วิธีดังกล่าวสามารถตัดแต่งและบังคับรูปทรงของทรงพุ่มได้ตามความต้องการผู้ปลูกนอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับชนิดพันธุ์ด้วยว่าพันธุ์ด้วยว่าพันธุ์ใดจะเหมาะสมกับวิธีการปลูกแบบใด ตามวัตถุประสงค์ผู้ปลูก

ความต้องการของต้นไม้

แสง                ต้องการแสงแดดอ่อน จนถึงแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง
น้ำ                   ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง จนถึงมาก ควรให้น้ำ 3-5 วัน/ครั้ง
ดิน                  ชอบดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย ความชื้นปานกลาง
ปุ๋ย                  ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 0.5: 2 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 4-5 ครั้ง
โรค                 ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรค เพราะมีความทนทานต่อโรคได้ดี
ศัตรู                เพลี้ยแป้ง (Mealy bugs)
อาการ             กัดแทะใบ ทำให้ใบเป็นรู เป็นรอย ต่อมาใบจะเหลืองและแห้ง
การป้องกัน      การรักษาความสะอาดบริเวณแปลงปลูก การกำจัดพาหนะแพร่ระบาด พวกมดต่างๆ
การกำจัด        ใช้ยาไดอาซินอน อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก

การนำไปใช้จัดสวน : เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับเป็นไม้ประดับให้ร่มเงาได้ดี

ราคากลาง ต้นไทรทอง

ถุง 3 นิ้ว  ราคา  6  บาท

กระถาง 6 นิ้ว ราคา 15  บาท

กระถาง 16 นิ้ว  ทรงพุ่มไม่ต่ำกว่า 50 ซม. ราคา  150  บาท

(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)

ไทรด่าง

ต้นไทรด่าง

ต้นไทรด่าง

ชื่อต้นไม้ : ไทรด่าง

ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Ficus benjamina L. var. variegata

ชื่อเรียกอื่น : ไทรย้อยใบแหลมด่าง

ลักษณะทั่วไป : ไทรด่างเป็นพืชบกกลางแจ้ง ความสูงของต้นอยู่ประมาณ 1 เมตรทรงพุ่ม กว้าง 0.45 เมตร ลำต้นเหนือดิน ตั้งตรงเองได้ ผิวลำต้นหยาบเรียบ เห็นข้อปล้องไม่ชัดเจน ต้นอ่อนสีเขียว ต้นแก่สีน้ำตาลเข้ม ไม่มีน้ำยาง ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ ใบอ่อนสีเขียวอ่อน ใบแก่สีเขียวเข้ม การเรียงตัวของใบบนกิ่ง เรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก  ขนาดแผ่นใบกว้าง 4-6 ซม. ยาว8-10 ซม. แผ่นใบรูปหอก ปลายใบเรียวแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบใบเป็นรูปไข่ มีสีเขียวแกมเหลืองหรือเหลืองออกขาวนิยมปลูกเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ ลำต้นมีสีเทา เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ทรงพุ่มหนาทึบ ใบรูปไข่ปลายใบแหลม ฐานใบเรียวสอบเข้าหาก้านใบ ก้านใบค่อนข้างสั้น พื้นใบมีมีสีเขียวอมเทา ด่างขาวบริเวณขอบใบทั้งสองด้านรวมทั้งตามผิวบางส่วน

การปลูกและดูแลรักษา  : ปลูกขึ้นได้ดีในดินร่วน ชอบแสงปานกลาง แสงมากชอบความชื้น สามารถขยายพันธุ์โดยการปักชำและการตอนกิ่ง

การนำไปใช้จัดสวน : เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ทรงพุ่มหนาทึบ เหมาะสำหรับเป็นไม้ประดับให้ร่มเงา

ราคากลาง ต้นไทรด่าง

กระถาง 16 นิ้ว สูงไม่ต่ำกว่า 1.5 เมตร ราคา  625  บาท

(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)

ไทรเกาหลี

ต้นไทรเกาหลี

ต้นไทรเกาหลี

ชื่อต้นไม้ : ไทรเกาหลี

ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Ficus annulata

ชื่อเรียกอื่น :

ลักษณะทั่วไป : เป็นไม้พุ่มทรงสูง และทรงของพุ่มจะค่อนข้างแน่น ตัวพุ่มประกอบไปด้วยใบสีเขียวสดที่เรียงตัวซ้อนกันอยู่เป็นชั้นๆ เมื่อโตเต็มที่ไทรเกาหลีจะมีขนาดความสูงได้ประมาณ 5-6 เมตร ส่วนตัวใบของต้นไทรเกาหลีนั้นจะมีสีเขียวเข้มจัด รูปทรงค่อนข้างเรียว ใบมัน และมียางสีขาว ส่วนของลำต้นด้านบนจะเห็นไม่ชัดเนื่องจากใบที่หนาแน่นปกคลุมอยู่มาก โดยตัวลำต้นส่วนล่างที่มองเห็นได้จะมีสีเทาปนน้ำตาล ตามกิ่งจะมีรากย้อยลงมาซึ่งเป็นลักษณะแบบเดียวกับต้นไทรชนิดอื่นด้วยจุดเด่นของไทรชนิดนี้อยู่ที่การแตกกิ่งที่หนาแน่นและมีใบดกสีเขียวสดปกคลุม ทำให้แลดูชุ่มชื่นตลอดปี  โดยทั่วไปไทรเกาหลีจึงถูกนิยมนำมาปลูกประดับเป็นแนวรั้ว ปลูกริมกำแพงร่วมกับพืชดอกชนิดอื่นหรืออาจนำมาใช้ทำเป็นกำแพงต้นไม้ไปเลยก็ได้

การปลูกและดูแลรักษา  : ต้นไทรเกาหลีเป็นต้นไม้ที่ต้องการแสงแดดจัดจึงควรนำมาปลูกกลางแจ้งไม่ควรนำไปปลูกไว้ในที่ร่มหรือห้องรับแขกเพราะจะทำให้ต้นแตกกิ่งก้านและผลิใบน้อยลงและไม่เติบโตเท่าที่ควร ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของต้นไทรเกาหลีคือแทบจะไม่มีการผลัดใบ ทำให้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการจัดการกับปัญหาเศษใบไม้ร่วง สำหรับการดูแลรักษานั้นและเพาะพันธุ์นั้นพบว่าไทรเกาหลีมีความต้องการน้ำในระดับปานกลางและสามารถขยายพันธุ์ได้โดยการเสียบยอดหรือเพาะเมล็ด

การนำไปใช้จัดสวน : ไม้พุ่มทรงสูงและทรงของพุ่มจะค่อนข้างแน่นนิยมในการนำมาใช้เป็นกำแพงริมรั้ว

ราคากลาง ต้นไทรเกาหลี

ถุง 8 นิ้ว  สูงไม่ต่ำกว่า 1.5 เมตร ราคา  260  บาท

กระถาง 16 นิ้ว สูงไม่ต่ำกว่า 2 เมตร ราคา 550 บาท

(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)

ต้นเทียนทอง

ต้นเทียนทอง-ราคา

ต้นเทียนทอง-ราคา

ชื่อต้นไม้ : เทียนทอง

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Duranta erecta L.  

ชื่อเรียกอื่น : เทียนทอง, พวงม่วง, เทียนพญาอินทร์

ลักษณะทั่วไป : ลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นแตกกิ่งก้านจำนวนมาก ทรงพุ่มแน่นทึบ เปลือกสีน้ำตาลอ่อน  สูงประมาณ 3 เมตร ใบและดอกเด่นสะดุดตา ตอบสนองต่อแสงดีมาก นิยมปลูกเป็นไม้สวนกลางแจ้งสามารถตัดแต่งเป็นรูปทรงที่ต้องการได้

ใบ : ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปรีถึงรูปไข่ กว้าง 1-1.5 เซนติเมตร ยาว 1.5-2 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบหยัก แผ่นใบสีเขียวอ่อนอมเหลืองถึงสีเหลืองทอง

ดอก : ออกดอกเป็นช่อ ยอดกิ่ง ดอกมีลักษณะเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 กลีบ สีม่วง  โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปกรวย ปลายแยกเป็น 5 แฉก ดอกบานเต็มที่กว้างประมาณ 1.5 เซนติเมตร

ผล  : ผลสด รูปกลม ขนาด 0.5-0.8 เซนติเมตร สีเหลือง มีเมล็ด 1 เมล็ด

การปลูกและดูแลรักษา  : ต้นเทียนทองเป็นไม้ที่ชอบแสงจึงควรปลูกในที่โล่ง ไม่มีร่มไม้ใหญ่ โดยนิยมปลูกจากต้นกล้าจากการเพาะชำอายุต้นกล้าประมาณ 2-3 เดือน ก่อนปลูกต้องเตรียมแปลงหรือบริเวณปลูกด้วยการพรวนดิน และกำจัดวัชพืชเสียก่อน ระยะปลูกประมาณ 20-40 ซม. ขึ้นกับขนาดและอายุต้นกล้า การดูแลรักษาต้นเทียนทองเป็นไม้ที่ชอบแสงและดินชื้นไม่มากจึงรดน้ำเพียง 2 วัน/ครั้งพอชุ่ม แต่หากในช่วงฤดูแล้งที่อากาศร้อนจัด ควรรดเป็นประจำทุกวันโดยเฉพาะต้นเทียนทองที่มีอายุน้อย ส่วนการใส่ปุ๋ยควรใส่ปุ๋ยคอกเพียงอย่างเดียวหรือใช้เศษใบไม้ ขี้เถ้าแกลบโรยโคนต้นเท่านั้น ไม่ควรใช้ปุ๋ยเคมีโดยเฉพาะปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง เพราะจะทำให้ใบมีสีเขียวสดมากใบมีสีเหลืองทองน้อยลง รวมถึงการได้รับแสงมากจะทำให้ใบเทียนทองมีสีเขียวมากขึ้น

การนำไปจัดสวน : ไม้พุ่มขนาดเล็ก

ราคากลาง ต้นเทียนทอง

ถุง 3 นิ้ว  ราคา  6  บาท

กระถาง 16 นิ้ว  ทรงพุ่มไม่ต่ำกว่า 50 ซม.  ราคา 160  บาท

(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)

เทียนหยด

ต้นเทียนหยด

ต้นเทียนหยด

ชื่อต้นไม้ : เทียนหยด

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Verbenaceae

ชื่อเรียกอื่น : ฟองสมุทร, พวงม่วง, เทียนไข(กรุงเทพฯ), สาวบ่อลด(เชียงใหม่), เครือออน(แพร่), เอี่ยฉึ่ง(จีน)

ลักษณะทั่วไป : มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่บริเวณทวีปอเมริกาเขตร้อน เป็นพรรณไม้พุ่มเตี้ย สูง 1 – 2 เมตร แตกกิ่งก้านหนาแน่นยอดกิ่งลู่ลงใบเป็นใบเดี่ยวออกตรงกันข้ามและจะออกหนาแน่นเป็นกระจุกรอบกิ่งก้านในช่วงปลายยอดใบเป็นรูปรีแกมรูปไข่ปลายใบแหลมโคนใบสอบ ขอบใบจักเป็นฟันเลื่อย ใบเป็นสีเขียวสด เวลาใบดกจะเป็นพุ่มน่าชมมากดอกออกเป็นช่อที่ซอกใบและปลายกิ่งแต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยจำนวนมากช่อดอกจะห้อยลงเป็นระย้า ลักษณะดอก โคนเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 กลีบ ดอกแต่ละกลีบเป็นอิสระกัน ปลายกลีบโค้งมน มีเว้าเล็กน้อยบริเวณกลางกลีบ โคนกลีบสอบแคบ เวลามีดอกดกๆและบานพร้อมๆกันทั้งต้น ช่อดอกจะห้อยปลายลงเป็นระย้าดูงดงามมากดอกจะออกทั้งปีมีพันธุ์สีม่วงและสีขาวผลทรงกลม ขนาดเล็กปลายแหลมอยู่รวมกันเป็นช่อห้อยลงมา

การปลูกและดูแลรักษา  : ปลูกขึ้นได้ในดินทั่วไป ไม่ชอบน้ำท่วมขัง ชอบแดดจัดเหมาะจะปลูกลงดินกลางแจ้ง หรือลงกระถาง ตั้งวางในที่มีแดดส่องถึงทั้งวัน นิยมปลูกเป็นไม้ขอบแปลงหรือแปลงใหญ่ ขยายพันธุ์โดย การเพาะเมล็ด ตอนหรืปักชำกิ่ง หลังการปลูก บำรุงด้วยปุ๋ยมูลสัตว์ ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก 10 วันครั้งรดน้ำพอชุ่มเช้าเย็น ถ้าปลูกลงกระถางควรให้ปุ๋ยสูตร 16-16-16 อาทิตย์ละครั้ง สลับกับปุ๋ยมูลสัตว์ 10 วันครั้ง ตัดแต่งกิ่ง พรวนดินสม่ำเสมอจะทำให้ต้นเทียนหยด เจริญเติบโตเร็ว

การนำไปใช้จัดสวน : ไม้พุ่ม รูปทรงไม่แน่นอน ลำต้นสูงได้ 1-3 เมตร กิ่งมีลักษณะลู่ลง ปลูกทำแนวเขตรั้วได้

ราคากลาง ต้นเทียนหยด

ถุง 3 นิ้ว  ราคา  8  บาท

(ราคาปี 2556 / ราคาต้นไม้จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นไม้นั้นๆ)